สารบัญ
Toggleการขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ.
ครูผู้ช่วย สามารถขอย้ายได้ โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ปฏิบัติงานในตำแหน่งครูในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย
- ไม่เป็นผู้ถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
การย้ายครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
- การย้ายกรณีปกติ พิจารณาย้ายปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ในเดือนเมษายน ครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายน
- การย้ายกรณีพิเศษ พิจารณาได้ตลอดปี
เอกสารประกอบในการขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. ได้แก่
- ใบคำร้องขอย้าย
- หนังสือรับรองจากสถานศึกษาปัจจุบัน
- หลักฐานประกอบการพิจารณาการย้าย (กรณีย้ายกรณีพิเศษ)
การยื่นคำร้องขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. สามารถทำได้ดังนี้
- ยื่นคำร้องต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
- ยื่นคำร้องต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ประสงค์จะย้ายไป
การย้ายครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประกาศโดยคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565
สำหรับวันที่ 27 กันยายน 2565 เป็นวันที่ครูผู้ช่วยสังกัด สพฐ. สามารถทำเรื่องขอย้ายกรณีปกติได้ครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ 2566
การขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัด กทม.
สามารถขอย้ายได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ย้ายภายในสังกัด กทม.
สามารถทำได้หลังจากบรรจุและแต่งตั้งแล้ว 2 ปี
ย้ายออกนอกสังกัด กทม.
สามารถทำได้หลังจากบรรจุและแต่งตั้งแล้ว 8 ปี
สำหรับขั้นตอนการขอย้าย ครูผู้ช่วยสามารถยื่นเรื่องขอย้ายได้ด้วยตัวเองที่สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร โดยต้องแนบเอกสารประกอบการขอย้ายดังนี้
- ใบสมัครขอย้าย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาวุฒิการศึกษา
- สำเนาหนังสือสำคัญแสดงวิทยฐานะ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพครู
- ใบรับรองการปฏิบัติงาน
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
ทั้งนี้ การขอย้ายจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร กำหนดไว้ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
โดยสรุป ครูผู้ช่วยสังกัด กทม. สามารถขอย้ายได้ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ดังนี้
- ย้ายภายในสังกัด กทม. สามารถทำได้หลังจากบรรจุและแต่งตั้งแล้ว 2 ปี
- ย้ายออกนอกสังกัด กทม. สามารถทำได้หลังจากบรรจุและแต่งตั้งแล้ว 8 ปี
สำหรับขั้นตอนการขอย้าย สามารถยื่นเรื่องขอย้ายได้ด้วยตัวเองที่สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร โดยต้องแนบเอกสารประกอบการขอย้ายที่กำหนดไว้
การขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัดอาชีวศึกษา
สามารถขอย้ายได้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการขอย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กำหนด โดยหลักเกณฑ์การขอย้ายมีดังนี้
- ครูผู้ช่วยต้องได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยสังกัดสอศ.มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
- วิทยาลัยที่ขอย้ายต้องมีอัตราว่างรองรับ
- กรณีขอย้ายไปวิทยาลัยที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สอศ.) ต้องได้รับการอนุญาตจาก สพฐ. หรือ สอศ. แล้วแต่กรณี
ขั้นตอนการขอย้ายมีดังนี้
- ครูผู้ช่วยยื่นคำร้องขอย้ายต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ตนสังกัด
- ผู้อำนวยการสถานศึกษาพิจารณาคำร้องและเสนอต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอาชีวศึกษา (สอศ.เขต)
- สอศ.เขตพิจารณาและเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
- สอศ.พิจารณาและอนุมัติการย้าย
ทั้งนี้ ครูผู้ช่วยสามารถขอย้ายได้ 2 รอบต่อปี โดยรอบแรกจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และรอบที่สองจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
นอกจากนี้ ครูผู้ช่วยสังกัดอาชีวศึกษายังสามารถขอย้ายในกรณีพิเศษได้ ดังนี้
- กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ เช่น กรณีต้องดูแลบุตรหรือภรรยาที่พิการหรือทุพพลภาพ กรณีต้องดูแลบุพการีที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือกรณีต้องดูแลสามีหรือภรรยาที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
- กรณีขอย้ายไปวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาวิชาที่ครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุ
- กรณีขอย้ายไปวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราค่าครองชีพสูงกว่าพื้นที่เดิม
การขอย้ายในกรณีพิเศษ ครูผู้ช่วยจะต้องยื่นคำร้องขอย้ายพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา เช่น เอกสารแสดงความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ เอกสารแสดงการรับรองจากแพทย์ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสอศ. สามารถศึกษาได้จากประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการขอย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของสอศ.
การขอย้ายครูผู้ช่วยสังกัดท้องถิ่น
สามารถขอย้ายได้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการขอย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำหนด โดยหลักเกณฑ์การขอย้ายมีดังนี้
- ครูผู้ช่วยต้องได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยสังกัด อปท.มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
- อปท.ที่ขอย้ายต้องมีอัตราว่างรองรับ
ขั้นตอนการขอย้ายมีดังนี้
- ครูผู้ช่วยยื่นคำร้องขอย้ายต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ตนสังกัด
- ผู้อำนวยการสถานศึกษาพิจารณาคำร้องและเสนอต่อผู้บริหาร อปท.
- ผู้บริหาร อปท.พิจารณาและเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ อปท.
- คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ อปท.พิจารณาและอนุมัติการย้าย
ทั้งนี้ ครูผู้ช่วยสามารถขอย้ายได้ 2 รอบต่อปี โดยรอบแรกจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และรอบที่สองจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
นอกจากนี้ ครูผู้ช่วยสังกัดท้องถิ่นยังสามารถขอย้ายในกรณีพิเศษได้ ดังนี้
- กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ เช่น กรณีต้องดูแลบุตรหรือภรรยาที่พิการหรือทุพพลภาพ กรณีต้องดูแลบุพการีที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือกรณีต้องดูแลสามีหรือภรรยาที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
- กรณีขอย้ายไปสถานศึกษาที่เปิดสอนสาขาวิชาที่ครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุ
- กรณีขอย้ายไปสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราค่าครองชีพสูงกว่าพื้นที่เดิม
การขอย้ายในกรณีพิเศษ ครูผู้ช่วยจะต้องยื่นคำร้องขอย้ายพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา เช่น เอกสารแสดงความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ เอกสารแสดงการรับรองจากแพทย์ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดท้องถิ่น สามารถศึกษาได้จากประกาศคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ อปท. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการขอย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ครูผู้ช่วยสังกัดท้องถิ่นที่ประสงค์จะขอย้ายไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น จะต้องดำเนินการขอโอนย้ายก่อน โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการโอนย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนด
สรุปสั้นๆ
ครูผู้ช่วยในสังกัดต่างๆ สามารถขอย้ายได้ โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
“สังกัด สพฐ.” หมายถึง หน่วยงานหรือบุคคลที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกรมในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดูแลและกำกับการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด รวมถึงดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตัวอย่างหน่วยงานหรือบุคคลที่สังกัด สพฐ. ได้แก่
- สถานศึกษาในสังกัด สพฐ. เช่น โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น
- ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สพฐ. เช่น ครู อาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษาอื่น ๆ เป็นต้น
- หน่วยงานในสังกัด สพฐ. เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้น