สารบัญ
Toggleคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ช่วย
ต้องมีหลักฐานการอนุญาตประกอบวิชาชีพที่คุรุสภารับรอง อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
- ใบรับรองสิทธิประกอบวิชาชีพครู
- หลักฐานแสดงการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูพิเศษ (ป.บัณฑิตพิเศษ) ที่คุรุสภารับรอง
สาขาวิชาเอกที่เปิดรับสมัคร
สาขาวิชาเอกที่เปิดรับสมัครนั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยพิจารณาจากความต้องการของสถานศึกษาและความต้องการของประเทศ โดยสาขาวิชาเอกที่เปิดรับสมัครในปัจจุบัน มีดังนี้
- ภาษาไทย
- ภาษาอังกฤษ
- คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
- สังคมศึกษา
- ศิลปะ
- สุขศึกษาและพลศึกษา
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ดนตรี
- นาฏศิลป์
- สาระการเรียนรู้อื่นๆ
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นเอกสารสำคัญในการประกอบวิชาชีพครู โดยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจะออกให้โดยคุรุสภา โดยผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คุรุสภากำหนด จะสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้
หลักเกณฑ์และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู มีดังนี้
- ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กำหนด เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ที่เปิดรับสมัคร
- ต้องผ่านการทดสอบความรู้และทักษะทางวิชาชีพครูตามหลักสูตรที่คุรุสภากำหนด
- ต้องผ่านการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครูตามหลักสูตรที่คุรุสภากำหนด
รูปแบบการสอบ
การสอบครูผู้ช่วยแบ่ง ข้อสอบครูผู้ช่วย ออกเป็น 3 ภาค ได้แก่
- ภาค ก เป็นการทดสอบความรู้และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับครู เช่น ความสามารถในการวิเคราะห์ ทักษะภาษาอังกฤษ และความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี
- ภาค ข เป็นการทดสอบความรู้และทักษะเฉพาะวิชาชีพครู เช่น มาตรฐานความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอน (วิชาเอก) มาตรฐานความรู้ทั่วไปในการจัดการเรียนการสอน และความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
- ภาค ค เป็นการสอบสัมภาษณ์
สรุปสั้นๆ และ คำถามอื่นๆ
ตามประกาศคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ฉบับที่ 9/2564 ระบุว่า ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กำหนด เป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ที่เปิดรับสมัคร
การสอบครูผู้ช่วย 66 ใช้วุฒิดังนี้
- วุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ. รับรอง
- มีหลักฐานการอนุญาตประกอบวิชาชีพที่คุรุสภารับรอง อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
- ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
- หนังสือรับรองสิทธิ
สำหรับวุฒิทางอื่นที่ ก.ค.ศ. รับรองนั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยพิจารณาจากสาขาวิชาหรือวิชาเอกที่สอดคล้องกับกลุ่มวิชาหรือทางที่ประกาศรับสมัคร
นอกจากนี้ ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีคุณสมบัติทั่วไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยทั่วไปแล้ว การสอบครูผู้ช่วย สพฐ. จะเปิดสอบทุกปี แต่อาจมีบางปีที่มีการเลื่อนสอบหรืองดสอบเนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้น
สำหรับปี 2567 นั้น ยังไม่มีการประกาศเปิดสอบครูผู้ช่วย สพฐ. อย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะมีการเปิดสอบตามปกติ เนื่องจากความต้องการครูผู้ช่วยของสถานศึกษาต่างๆ ยังคงมีอยู่
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบครูผู้ช่วย สพฐ. สามารถติดตามข่าวสารและประกาศรับสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือเว็บไซต์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
การสอบครูผู้ช่วยในปัจจุบัน มี 1 รอบ แบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ โดยกำหนดให้มีการสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป 1 ครั้ง และภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ 1 ครั้ง ยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ อาจจะมีการสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มากกว่า 1 ครั้ง
สำหรับปี 2566 นั้น กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ สพฐ. เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด โดยกำหนดให้มีการสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 1 รอบ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม – 1 ตุลาคม 2566
ดังนั้น สรุปได้ว่า การสอบครูผู้ช่วยในปัจจุบัน มี 1 รอบ ยกเว้นในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ อาจจะมีการสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มากกว่า 1 ครั้ง
ได้ ครูผู้ช่วยสามารถสอบครูผู้ช่วยใหม่ได้ โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
- ผ่านการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพครู
- ไม่เป็นผู้ถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
การสอบครูผู้ช่วยใหม่แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
- การสอบแข่งขันทั่วไป เป็นการสอบเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย
- การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ เป็นการสอบเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในตำแหน่งที่มีความจำเป็นหรือขาดแคลน
การสอบครูผู้ช่วยใหม่จะดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด
สำหรับในปีงบประมาณ 2566 สพฐ. กำหนดให้มีการสอบครูผู้ช่วยใหม่ 1 ครั้ง ในเดือนกันยายน 2566 คาดว่าจะมีการประกาศรับสมัครสอบประมาณเดือนกรกฎาคม 2566
ดังนั้น ครูผู้ช่วยที่ประสงค์จะสอบครูผู้ช่วยใหม่ สามารถเตรียมตัวสอบได้ตั้งแต่วันนี้ โดยศึกษาเนื้อหาวิชาที่ใช้ในการสอบและฝึกฝนทำข้อสอบบ่อย ๆ
นอกจากนี้ ครูผู้ช่วยยังสามารถขอย้ายไปยังสถานศึกษาที่ประสงค์จะสอบครูผู้ช่วยใหม่ได้ โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
ไม่ สอบครูผู้ช่วย ภาค ก ข สอบคนละวันกัน โดยภาค ก สอบก่อนภาค ข โดยปกติแล้ว ภาค ก จะสอบก่อนภาค ข ประมาณ 1-2 สัปดาห์
สำหรับปีงบประมาณ 2566 กำหนดให้มีการสอบครูผู้ช่วย ภาค ก ในวันที่ 24 กันยายน 2566 และสอบครูผู้ช่วย ภาค ข ในวันที่ 8 ตุลาคม 2566
ดังนั้น ผู้ที่สมัครสอบครูผู้ช่วยจะต้องเตรียมตัวสอบทั้งสองภาค โดยศึกษาเนื้อหาวิชาที่ใช้ในการสอบและฝึกฝนทำข้อสอบบ่อย ๆ
ไม่ได้ คุณสมบัติของผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย จะต้องมีคุณสมบัติทั่วไป ดังนี้
- สัญชาติไทย พร้อมทั้งมีบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน
- อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นหรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น
และคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป
- ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครู
เป็นได้ จบภูมิศาสตร์ สามารถเป็นครูได้ โดยการสอบใบประกอบวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิต
ครูผู้สอนวิชาภูมิศาสตร์ จะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป ในสาขาวิชาภูมิศาสตร์ หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น ภูมิสารสนเทศ สิ่งแวดล้อม การพัฒนาชุมชน เป็นต้น และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครู
นอกจากนี้ ครูผู้สอนวิชาภูมิศาสตร์ จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาวิชาภูมิศาสตร์เป็นอย่างดี และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ทางภูมิศาสตร์เพื่อสอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภูมิศาสตร์ สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพครูได้ 2 วิธี คือ
- สอบผ่านภาคการศึกษาวิชาชีพครู ในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต หรือหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต ซึ่งจะมีวิชาชีพครูอยู่ในหลักสูตรอยู่แล้ว
- สอบผ่านหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (ป.บัณฑิต) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาใดก็ได้ที่ต้องการประกอบวิชาชีพครู